THE 5-SECOND TRICK FOR คราฟเบียร์ เชียงราย

The 5-Second Trick For คราฟเบียร์ เชียงราย

The 5-Second Trick For คราฟเบียร์ เชียงราย

Blog Article

เบียร์คราฟ (craft beer) เป็นการผลิตเบียร์สดโดยโฮมเมดรายเล็กที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ผู้ผลิตจำต้องใช้ความสามารถความสร้างสรรค์สำหรับในการแต่งรสเบียร์สดให้มีความมากมายของรส รวมทั้งที่สำคัญต้องแต่งกลิ่นตามธรรมชาติ ห้ามใช้สารเคมีมาแต่งกลิ่นเด็ดขาด

คราฟเบียร์ต่างจากเบียร์สดเยอรมันที่พวกเรารู้จักดี

ในประเทศเยอรมนีมีข้อบังคับฉบับหนึ่งระบุว่า เบียร์ที่ผลิตขึ้นในประเทศเยอรมันจะต้องใช้องค์ประกอบหลัก 4 อย่างเพียงแค่นั้นเป็น “มอลต์ ฮอปส์ ยีสต์ รวมทั้งน้ำ”

ข้อบังคับฉบับนั้นคือ ‘Reinheitsgebot’ (German Beer Purity Law) หรือกฎหมายที่ความบริสุทธิ์ ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนครั้งใหญ่ของการผลิตเบียร์สดไปสู่สมัยใหม่ กฎหมายนี้เริ่มขึ้นในประเทศบาวาเรีย เมื่อ คริสต์ศักราช 1516 โดยได้ตั้งค่ามาตรฐานว่า เบียร์ที่ผลิตในเยอรมนีต้องทำจาก น้ำ ข้าวบาร์เลย์ที่พึ่งจะผลิออกหรือมอลต์ รวมทั้งดอกฮอปส์ แค่นั้น ข้อบังคับฉบับนี้ในอดีตกาลก็เลยถูกเรียกว่า 1516 Bavarian Law ส่วนยีสต์เกิดขึ้นภายหลังจากการศึกษาค้นพบวิธีพาสเจอร์ไรซ์ กฎนี้ยังตกทอดมาสู่การสร้างเบียร์สดในเยอรมันเกือบทุกบริษัท

ดังนั้น เราจึงไม่เห็นเบียร์ที่ทำมาจากข้าวสาลี หรือเบียร์สดรสสตรอคอยว์เบอร์รี ในเยอรมนี เพราะไม่ใช่มอลต์

ขณะที่เบียร์คราฟ สามารถสร้างสรรค์ แต่งกลิ่นจากอุปกรณ์ตามธรรมชาติได้อย่างมากไม่มีข้อจำกัด

สหายคนนี้กล่าวต่อว่าต่อขาน “บ้านเรามีความมากมายหลากหลายของผลไม้ ดอกไม้มากไม่น้อยเลยทีเดียว เดี๋ยวนี้พวกเราก็เลยเห็นเบียร์สดหลายอย่างที่ขายมีกลิ่นอ่อนๆของบ๊วย ส้ม มะม่วง มะพร้าว ฯลฯ”

เมื่อเร็วๆนี้ ที่เมืองแอชวิล ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา อเมริกา Gary Sernack นักปรุงคราฟเบียร์ ได้ประดิษฐ์เบียร์ IPA ที่ได้แรงผลักดันจาก ‘แกงเขียวหวาน’ ของคนไทย โดยแต่งกลิ่นจากองค์ประกอบของแกงเขียวหวาน คือ ใบมะกรูด ตะไคร้ มะพร้าวเผา ขิง ข่า และก็ใบโหระพา กระทั่งกลายเป็นข่าวดังไปทั่วทั้งโลก

IPA เป็นประเภทของเบียร์ชนิดหนึ่ง มีดีกรีแอลกฮอล์สูงขึ้นมากยิ่งกว่าเบียร์สดปกติ IPA หรือ India Pale Ale มีสาเหตุจากเบียร์ Pale Ale ที่ได้รับความนิยมมากในยุคอังกฤษล่าอาณานิคมและเริ่มส่งเบียร์ไปขายในประเทศอินเดีย แม้กระนั้นเนื่องจากช่วงเวลาการเดินทางบนเรือนานเกินความจำเป็น เบียร์จึงบูดเน่า ต้องเททิ้ง ผู้สร้างจึงแก้ปัญหาด้วยการใส่ฮอปส์รวมทั้งยีสต์มากเพิ่มขึ้นเพื่อยืดอายุของเบียร์ ทำให้เบียร์มีแอลกอฮอล์สูงมากขึ้น กลิ่นฮอปส์มีความสะดุดตา และเบียร์สดก็มีสีทองแดงสวยงาม จนถึงเปลี่ยนเป็นว่าได้รับความนิยมมาก

แล้วก็ในบรรดาคราฟเบียร์ การสร้างจำพวก IPA ก็ได้รับความชื่นชอบมากที่สุด

ในร้านอาหารเล็กๆของอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีเบียร์สด IPA ท้องถิ่นยี่ห้อหนึ่งได้รับความนิยมสูงมาก ผลิตออกมาเท่าใดก็ขายไม่เคยพอเพียง แม้ว่าจะราคาสูงก็ตาม ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเบียร์สดตัวนี้แรงขนาด 8 ดีกรี แม้กระนั้นโชคร้ายที่ต้องไปบรรจุกระป๋องถึงประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะเอามาวางขายในประเทศ กระป๋องละ 300 กว่าบาทสโมเบียร์ เชียงราย

ปัจจุบันนี้อำเภอเชียงดาวก็เลยเริ่มเป็นแหล่งพบปะคนรุ่นใหม่ ผู้นิยมชมชอบการผลิตสรรค์คราฟเบียร์

“ไม่แน่ในอนาคต อาจมีคราฟเบียร์กลิ่นดอกกุหลาบจากเชียงดาวก็ได้”

เพื่อนฝูงผมพูดด้วยความหวัง โดยในเวลาเดียวกัน เขาก็กำลังทดลองทำเบียร์กลิ่นมะม่วง ซึ่งถ้าเกิดทำสำเร็จ อาจไปพบทางไปผลิตแถวประเทศเวียดนาม และหลังจากนั้นก็ค่อยส่งมาขายในประเทศไทย

ข้อบังคับของบ้านเราในขณะนี้กีดกั้นผู้สร้างรายเล็กอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้คนใดกันอยากผลิตเบียร์คราฟให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะต้องไปขอใบอนุมัติจากกรมสรรพสามิต แต่ว่ามีเงื่อนไขว่า

1) มีทุนสำหรับจดทะเบียนไม่ต่ำยิ่งกว่า 10 ล้านบาท

2) แม้ผลิตเพื่อขาย ณ สถานที่ผลิต อาทิโรงเบียร์สดเยอรมันพระอาทิตย์แดง ต้องมีปริมาณการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนลิตรต่อปี

3) ถ้าเกิดจะบรรจุขวดหรือกระป๋อง ผลิตเพื่อขายนอกสถานที่ ราวกับเบียร์รายใหญ่ ต้องผลิตจำนวนไม่น้อยกว่า 10 ล้านลิตรต่อปี ไหมน้อยกว่า 33 ล้านขวดต่อปี เป็นข้อตกลงที่ระบุเอาไว้ในกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตเหล้าปี 2560

กฎหมายพวกนี้ทำให้ผู้ผลิตเบียร์สดรายเล็กไม่มีทางแจ้งกำเนิดในประเทศแน่นอน

2 เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่สภานิติบัญญัติ พิธา ลิ้มเจริญรุ่งเรืองรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายส่งเสริมร่างพระราชบัญญัติภาษีอากร ฉบับที่.. พ.ศ… เพื่อขอปรับแต่ง click here พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 153 ซึ่ง เท่าโลก ลิ้มช่างวาดเขียน ส.ส.จ.กรุงเทพฯ พรรคก้าวหน้า เป็นผู้เสนอ เพื่อปลดล็อกให้ราษฎรสามารถผลิตเหล้าประจำถิ่น เหล้าชุมชน แล้วก็เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อื่นๆได้ โดยเปรียบด้วยการยกมูลค่าตลาดเหล้าในประเทศไทยเทียบกับประเทศญี่ปุ่น

“ผมสนับสนุนข้อบังคับฉบับนี้ด้วยเหตุผลง่ายๆไทยกับญี่ปุ่นมีตลาดราคาสุราเสมอกัน 2 แสนล้านกับ 2 แสนล้าน ทั่วทั้งประเทศไทยสุรามี 10 แบรนด์ ญี่ปุ่นมี 5 หมื่นแบรนด์ ขนาดเท่ากัน ประเทศหนึ่งมูมมามกินกันแค่ 10 คน อีกประเทศหนึ่งกระจาย กินกัน 5 หมื่นคน หากเพื่อนพ้องสมาชิกหรือสามัญชนฟังอยู่แล้วไม่รู้สึกตงิดกับตัวเลขนี้ ก็ไม่ทราบจะพูดเช่นไรแล้ว”

“ตลาด 2 ประเทศ 2 แสนล้าน ใหญ่มากมายเท่ากัน ประเทศหนึ่งมี 10 แบรนด์ อีกประเทศหนึ่งมี 5 หมื่นแบรนด์ ประเทศที่มี 5 หมื่นแบรนด์นั้นส่งออก 93% ความจริงมันพูดเท็จกันมิได้ สถิติพูดปดกันมิได้ เขาทำเพื่อจะกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มราคาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของเขา นี่เป็นตลกร้ายของเมืองไทย”

แม้กระนั้นโชคร้ายที่ พระราชบัญญัติฉบับนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงความเห็นให้รัฐบาลเก็บไปดองเค็ม คือให้คณะรัฐมนตรีนำไปศึกษาต่อข้างใน 60 วัน

ปัจจุบันนี้ ในประเทศเยอรมนีมีบริษัทผู้ผลิตเบียร์ประมาณ 1,300 ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา 1,400 ที่ เบลเยี่ยม 200 แห่ง ตอนที่ประเทศไทยมีเพียงแต่ 2 เชื้อสายแทบจะผูกขาดการสร้างเบียร์ในประเทศ

ลองคิดดู ถ้าเกิดมีการปลดล็อก พระราชบัญญัติ สุราแล้ว ไม่ใช่แค่ผู้สร้างเบียร์อิสระหรือเบียร์สดที่จะได้คุณประโยชน์ แต่ว่าบรรดาเกษตรกร ผู้ปลูกผลไม้ ดอกไม้ ผลิตผลทางการเกษตรนานาชนิดทั้งประเทศ สามารถสร้างรายได้จากการแปรเปลี่ยนรูปผลิตภัณฑ์จากการเกษตร เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจในแต่ละแคว้น รวมทั้งยังสามารถล่อใจนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมแล้วก็กินเหล้า-เบียร์สดท้องถิ่นได้ ไม่ได้ต่างอะไรจากบรรดาสุรา เหล้าองุ่น สาเก เบียร์สดท้องถิ่นโด่งดังในต่างจังหวัดของประเทศฝรั่งเศส ประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี ฯลฯ

การพังทลายการผูกขาดเหล้า-เบียร์ เป็นการชำรุดทลายความเหลื่อมล้ำ และเปิดโอกาสให้มีการแข่งเสรีอย่างเสมอภาคกัน

ผู้ใดกันแน่มีฝีมือ คนใดกันแน่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถได้โอกาสเกิดในสนามนี้ได้ โดยใช้ทุนไม่มากเท่าไรนัก

รัฐบาลกล่าวว่าสนับสนุนรายย่อยหรือ SMEs แต่ว่าอีกด้านหนึ่งก็ไม่ให้โอกาส โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องไม้เครื่องมือสำคัญ

แต่ในประเทศไทยที่กรุ๊ปทุนผูกขาดมีความใกล้ชิดกับรัฐบาลเกือบทุกช่วง จังหวะที่ พ.ร.บ.ปลดล็อกเหล้าฉบับนี้จะคลอดออกมา ไม่ง่ายเลย ด้วยผลตอบแทนอันพรั่งพร้อม เวลาที่นับวันการเติบโตของคราฟเบียร์ทั่วโลกมีอัตราการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด

จากรายงานของ The Global Craft Beer Market พบว่าตั้งแต่ ค.ศ. 2005 คราฟเบียร์ในประเทศอเมริกา ถือเป็นอุตสาหกรรมด้านเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่โตเร็วที่สุดแทบ 300% โดยมีผู้ผลิตอิสระหลายพันราย จนสร้างความหวั่นไหวให้กับผู้สร้างเบียร์สดรายใหญ่ เนื่องจากว่าบรรดาคอเบียร์หันมาดื่มคราฟเบียร์กันเยอะขึ้น

จากข้อมูลของ Brewers Associations ที่อเมริกากล่าวว่า ในปี 2018 ยอดจำหน่ายเบียร์สดดังในประเทศสหรัฐตกลงไป 1% แต่ว่าคราวต์เบียร์กลับมากขึ้น 3.9% หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 13% ของยอดจำหน่ายเบียร์ทั้งปวง คิดเป็นมูลค่ากว่า 27,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และก็ยังสามารถสร้างงานได้มากกว่า 5 แสนตำแหน่ง ขณะที่ตลาดในยุโรปก็มีการเติบโตโดยตลอดที่ 13%

สำหรับเบียร์คราฟไทย มีการโดยประมาณกันว่ามีอยู่ 60-70 ยี่ห้อในปัจจุบัน โดยส่วนมากผลิตขายคุ้นเคยแบบไม่เปิดเผย ด้วยเหตุว่าผิดกฎหมาย และแบรนด์ที่วางขายในร้านหรือร้านอาหารได้ ก็ถูกผลิตในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว กัมพูชา เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น และบางประเทศในยุโรป

ปัจจุบัน ‘รุ่งเรือง’ เบียร์คราฟไทยจากเครือมหานครได้สร้างชื่อสุดยอด หลังจากพึ่งจะได้รับรางวัลเหรียญเงินจากเวที ‘World Beer Awards 2020’ แม้กระนั้นจำต้องไปผลิตในประเทศเวียดนาม

ตราบใดที่ทุนผูกขาดรายใหญ่ยังมีความเกี่ยวข้องที่ดีกับผู้กุมอำนาจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สนับสนุน อุ้มชู ผลประโยชน์ต่างทดแทนมาตลอด โอกาสสำหรับเพื่อการปลดล็อกเพื่อความเสมอภาคสำหรับเพื่อการชิงชัยการสร้างเบียร์สดและสุราทุกประเภท ดูเหมือนจะเลือนรางไม่น้อย
เบียร์สด เชียงราย

จะเป็นได้หรือที่ราคาน้ำเมา 2 แสนกว่าล้านบาท จะกระจัดกระจายไปสู่รายย่อยทั้งประเทศ ในประเทศที่ทุนผูกขาดกับผู้มีอิทธิพลคือเครือข่ายเดียวกัน

Report this page